สายใยพ่อแม่แนบแน่นตรึง ธาตุสี่อิงร่างอย่างมั่นคง
สิ้นชีพสิ่งใดให้ลอยลง กลบธาตุจรรโลงดวงวิญญาณ
ท่ามกลางประเพณีไทยที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย “ประเพณีก่อเจดีย์ทรายกลบธาตุ” ของชาวเพชรบูรณ์ ถือเป็นพิธีกรรมที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด นอกจากจะเป็นการก่อเจดีย์ทรายเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษแล้ว ยังมีความเชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องธาตุทั้งสี่ในร่างกาย และการนำอัฐิของผู้ล่วงลับมาร่วมพิธีเพื่อให้ดวงวิญญาณได้กลับคืนสู่สมดุล
ทุก ๆ ปี ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 4 หรือวันตรุษไทย ญาติพี่น้องจะเดินทางกลับมายังบ้านเกิด เพื่อร่วมกันประกอบพิธีที่สืบทอดกันมายาวนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นของสายใยครอบครัว และความศรัทธาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ประเพณีนี้ไม่ได้เป็นเพียงพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคีในชุมชน
รากฐานแห่งความเชื่อ
ชาวเพชรบูรณ์มีความเชื่อว่า ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ อย่างสมดุล แต่เมื่อล่วงลับไปและถูกเผาไหม้ ธาตุเหล่านี้จะกระจัดกระจาย ทำให้ดวงวิญญาณของผู้ตายไม่สงบสุข ดังนั้น ญาติพี่น้องจึงต้องนำอัฐิของผู้ล่วงลับมาร่วมในพิธี เพื่อให้สัมผัสกับธาตุทั้งสี่อีกครั้ง
-
ดิน คือกองทรายที่ใช้กลบอัฐิ
-
น้ำ คือน้ำอบน้ำหอมที่รดลงบนอัฐิ
-
ลม คือการเปิดผอบให้สัมผัสอากาศ
-
ไฟ คือลูกไฟจากเทียนและธูปที่จุดบูชา
พิธีกรรมนี้ต้องกระทำต่อเนื่องเป็นเวลาสามปีหลังจากผู้ตายเสียชีวิต เพื่อให้ธาตุของร่างกายกลับมาสมดุลอีกครั้ง และส่งผลให้ดวงวิญญาณได้พักสงบ
สายใยแห่งครอบครัวและชุมชน
นอกเหนือจากความศรัทธาทางจิตวิญญาณแล้ว ประเพณีก่อเจดีย์ทรายกลบธาตุ ยังเป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของครอบครัวและชุมชน ทุกคนจะเดินทางกลับบ้านมาร่วมกันทำบุญและปฏิบัติพิธีกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน
-
ผู้ชาย จะเป็นผู้ขุดทราย ขนทราย และก่อเจดีย์
-
ผู้หญิงและเด็ก ๆ จะช่วยกันตกแต่งเจดีย์ทรายให้สวยงาม
-
ผู้เฒ่าผู้แก่ จะเป็นผู้ดูแลด้านพิธีกรรม คอยแนะนำลูกหลานให้ปฏิบัติตามธรรมเนียม
บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น เสียงหัวเราะและความร่วมแรงร่วมใจซึ่งช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและชุมชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สืบทอดประเพณี สืบสานศรัทธา
ในปัจจุบัน ประเพณีก่อเจดีย์ทรายกลบธาตุยังคงดำเนินอยู่ในบางพื้นที่ของเมืองเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะที่ วัดทุ่งสะเดียง และ วัดช้างเผือก ในเขตตำบลในเมือง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ เช่น สะเดียง ป่าเลา บ้านโตก ชอนไพร และนายม แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยอาจทำให้บางพื้นที่เลือนหายไป แต่ความศรัทธาของผู้คนยังคงอยู่
การก่อเจดีย์ทรายไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการอุทิศบุญให้บรรพบุรุษแต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึง คุณค่าของครอบครัว การรำลึกถึงผู้ล่วงลับ และความรักความสามัคคีในชุมชน
ข้อมูล: ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์
เรียบเรียง: วิริทธิ์พล หิรัญรัตน์
ภาพ: สมเกียรติ งามนิล เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น