กลางเดือนมิถุนายน ณ ทุ่งนากลางหมู่บ้านห้วยไร่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เสียงหัวเราะและบทสนทนาอันคุ้นเคยของชาวบ้านได้หลอมรวมเป็นบรรยากาศอบอุ่นและมีชีวิตชีวาในกิจกรรม“ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ หว่านกล้า เอามื้อสามัคคี” ที่มิใช่เพียงการปลูกข้าว แต่คือการปลูกศรัทธา ความรักในถิ่นฐาน และสายใยแห่งชุมชน
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่แปลงนาเล็ก ๆ ของ นายสวัสดิ์ คำสุข บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยไร่ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสืบสานวิถีชาวนาไทย อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นถิ่น และแสดงพลังความสามัคคีในการลงแรงหว่านกล้าร่วมกันในรูปแบบ “เอามื้อสามัคคี” ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ชาวบ้านทั้งชายหญิง เยาวชน ผู้สูงอายุ ตลอดจนพระสงฆ์และหน่วยงานภาครัฐ ต่างพร้อมใจกันลงแขกลงแรงในนาข้าว ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธาต่อ “พระแม่โพสพ” เทพีแห่งข้าวผู้เป็นดั่งเสาหลักของชีวิตชาวนาไทย
ในกิจกรรมหว่านกล้านี้ ได้รับเกียรติจาก นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสัก เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ซึ่งได้กล่าวถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น และการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายศรัณยู มีทองคำ ได้เน้นย้ำ
ด้านพระสงฆ์นำโดย พระครูศรีวัชรคุณ เจ้าคณะอำเภอหล่มสัก (ธรรมยุต) และเจ้าอาวาสวัดสันติวัฒนา พร้อมด้วย พระครูถาวรพัชรกิจ เจ้าคณะตำบลห้วยไร่ ได้นำคณะสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และประพรมน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงาน
อีกทั้งยังมีผู้แทนจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคราชการ เอกชน และภาคประชาชน อาทิ สำนักงานพระพุทธศาสนา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นายกกิ่งกาชาดอำเภอหล่มสัก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไร่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยไร่ ผู้อำนวยการโรงเรียนในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้สูงอายุ อสม. และเยาวชน รวมถึงประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง
วัดโฆษา ซึ่งตั้งอยู่ในชุมชนบ้านท่าช้าง ตำบลห้วยไร่ ไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน แต่ยังเป็นหัวใจของกิจกรรมทางวัฒนธรรมและศาสนาของชาวบ้านมาโดยตลอด หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่มีชื่อเสียงคือ “ประเพณีก่อเจดีย์ข้าว” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนธันวาคม เพื่อบูชาพระแม่โพสพและสำนึกในพระคุณของธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงชีวิต
เจดีย์ที่ก่อขึ้นจากรวงข้าว ฟ่อนฟาง และวัสดุธรรมชาติจากวิถีชีวิตของชาวนา เปรียบเสมือนเครื่องหมายแห่งศรัทธาและความสามัคคี ที่แฝงไว้ด้วยภูมิปัญญาและความงดงามเชิงสัญลักษณ์ของการเคารพในผืนดินและวัฒนธรรมของตนเอง
ด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งด้านศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้พิจารณาคัดเลือกชุมชนที่มีศักยภาพตามเกณฑ์ 4 ด้าน ได้แก่
-
การรักษา พัฒนา และต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชน
-
การบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์
-
ความโดดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิต
-
การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ
โดยหลังจากการประเมินอย่างเข้มข้นในทุกมิติ ที่ประชุมมีมติคัดเลือก ชุมชนบ้านท่าช้าง (วัดโฆษา) ตำบลห้วยไร่ อำเภอหล่มสัก ให้เป็น สุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ระดับจังหวัด ซึ่งจะเป็นตัวแทนเพชรบูรณ์ส่งเข้าประกวด 10 สุดยอดชุมชนระดับประเทศโดยในเดือนกรกฏาคม 2568 คณะกรรมการระดับจะลงพื้นที่เพื่อประเมินในการเป็นสุดยอดชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชน ยลวิถี” ระดับประเทศ ความพร้อมในด้านศิลปวัฒนธรรม วิถีเกษตรอินทรีย์ งานประเพณีเจดีย์ข้าว และกิจกรรมชุมชนอย่างการ “เอามื้อสามัคคี” ล้วนสะท้อนอัตลักษณ์ของบ้านท่าช้างในมิติที่สมบูรณ์ ทั้งในด้านกายภาพ จิตใจ และความร่วมมือของคนในพื้นที่
ภาพของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ลงแรงหว่านกล้าคู่กับเยาวชนรุ่นใหม่ ภาพของพระสงฆ์ที่ให้พรท่ามกลางกลิ่นหอมของดินเปียก และภาพของรอยยิ้มจากผู้ร่วมกิจกรรมทุกช่วงวัย กลายเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า “ชุมชนที่เข้มแข็งเริ่มต้นจากหัวใจที่รักในท้องถิ่นของตน”
กิจกรรม “ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ หว่านกล้า เอามื้อสามัคคี” จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมธรรมดา แต่คือการรื้อฟื้นหัวใจของชาวนาไทยให้กลับมาเต้นอีกครั้ง ด้วยพลังของศรัทธา วัฒนธรรม และความสามัคคีอย่างแท้จริง และสะท้อนถึงการพัฒนาใด ๆ จะยั่งยืนได้ ต้องตั้งอยู่บนฐานของคนในชุมชนที่เข้าใจตนเอง และมีศรัทธาร่วมกันในคุณค่าของถิ่นเกิด
วิริทธิ์พล หิรัญรัตน์ -รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น